เด็กที่มีพฤติกรรมติดรสหวาน อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเด็กทำให้เกิดโรคอ้วน และทำให้เด็กไม่กินอาหารที่มีรสชาติอื่นได้ จนส่งผลให้ลูกกินยากและ เลือกกินอาหารที่ชอบที่มีรสหวาน อาจจะทำให้เด็กได้รับสารอาหารไม่ครบและทำให้เกิดโรคต่างๆได้ แต่การเลี่ยงการติดรสหวานของลูก คุณแม่ทำได้เพียงแค่เลือกรสหวานที่มาจากแหล่งธรรมชาติและให้ในปริมาณที่เหมาะสม มีอาหารชนิดใดบ้างไปดูกันเลยค่ะ
-ผักหลากหลายชนิด จะเป็นผักที่ให้ความหวานจากคาร์โบไฮเดรตและเกลือแร่ เช่น แครรอท ฟักทอง ยอดข้าวโพด ดอกกะหล่ำผักกาดขาว ผักบุ้ง ถั่วแขก มันแกว แห้ว หัวผักกาด เป็นต้น
-ผลไม้ ที่ให้ความหวานจากคาร์โบไฮเดรตควบคู่จาก ฟรุกโตส มอลโตสและซูโครส เช่น มะละกอ กล้วย แตงโม แคนตาลูป แอปเปิ้ล มะม่วง ขนุน เป็นต้น
-ไขมัน ที่มีความหวานจากคาร์โบไฮเดรตและให้น้ำมันเช่น เม็ดมะม่วงหิมพาน เมล็ดถั่วอัลมอนด์ และก็เนื้อมะพร้าว เป็นต้น
-ข้าวหรือธัญพืช รสหวานจากกลุ่มนี้จะเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจากเม็ดแป้งที่สะสมอยู่ ถ้านำมาต้มหรือตุ๋น จะทำไห้เด็กย่อยง่าย เช่น ข้าวกล้องงอก ข้าวซ้อมมือ ถั่วแดง ถั่วเขียว ข้าวโอ๊ต ลูกเดือย ข้าวโพด มันฝรั่ง เป็นต้น และยังให้วิตามินบี 1บี3บี6 และวิตามินอีจากจมูกข้าวด้วย
-เนื้อสัตว์ รสหวานจากเนื้อสัตว์จะประกอบไปด้วยกรดอะมิโนชนิดต่างๆ เฉพาะกรดกลูตามิก เช่น อกไก่ ปลาน้ำจืด ปลาทะเล กุ้ง หมึก และสันในหมู
ดั้งนั้น ความหวานที่มาจากธรรมชาติและให้ในปริมาณที่เหมาะสมกับเด็ก จะสามารถควบคุมน้ำหนักได้ดีป้องกันไม่ให้เกิดโรคอ้วนและลดภาวะไขมันในเลือดและยังช่วยให้เด็กย่อยอาหารได้ดี จะไม่ทำให้เด็กเบื่ออาหารและกินยาก และคุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลกับลูกน้อยที่ชอบกินรสหวานอีกด้วย นอกคุณพ่อคุณแม่จะเลือกอาหารที่หลากหลายให้กับลูกแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความสะอาดปลอดภัย และคุณค่าทางสารอาหารที่ครบถ้วน อย่าง น้ำสต๊อกหอมกรุ่น ที่มีสารอาหารที่ครบถ้วน ปลอดภัยหอมอร่อย ถูกปากลูกน้อย กินจนหมดชามทำให้คุณแม่ยิ้มได้ทุกมื้อ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ น้ำซุปเด็ก